ในหลวง ทรงรับตำรวจและผู้ชุมนุม บาดเจ็บจากชุมนุมเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวง ทรงรับตำรวจและผู้ชุมนุม บาดเจ็บจากชุมนุมเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวง ทรงรับตำรวจและ ผู้ชุมนุม บาดเจ็บจากชุมนุมในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 64 เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ในหลวง ผู้ชุมนุม – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพวงมาลาของเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปวางหน้าหีบศพ ร.ต.อ. วิวัฒน์ เสริฐสนิท เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ ๑ ณ วัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย 

และพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณทรงรับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 64 ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

แอมมี่ The Bottom Blues ได้โพสต์ข้อความ สารภาพ ว่าตนเป็นผู้เผาพระบรมฉายาลักษณ์จริง พร้อมยอมรับเป็นการกระทำที่โง่เขลา  #saveแอมมี่ – นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ยอมรับสารภาพว่าตนเป็นผู้เผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ในกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจริง

โดยข้อความบนเฟซบุ๊กระบุว่า “การกระทำการเผาพระบรมในครั้งนี้ เป็นฝีมือของผมและผมขอรับผิดชอบไว้แต่เพียงผู้เดียว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับกลุ่มการเคลื่อนไหว หรือ การเรียกร้องใดๆ

เหตุผลของผมนั้นเข้าใจง่ายมาก เล่าไปถึงตอนผมโดนจับไปวันที่ 13 ตุลา ปีที่แล้ว เพนกวิ้นคือคนแรกที่โทรหาผมบนรถห้องขัง และ ประกาศรวมพลมวลชนทันที แต่กลับกันในครั้งนี้กวิ้น และ พี่น้องของผม ต้องติดอยู่ในคุกนานกว่า 20 วันแล้ว แต่ผมไม่สามารถที่จะช่วยเหลือพวกเค้าได้เลย

ผมรู้สึกละอายและผิดหวังในตัวเอง การเผาพระบรมในครั้งนี้ ผมยอมรับว่าเป็นความคิดที่โง่เขลา และทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในอันตราย แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่ในการเผาครั้งนี้ มีอยู่มากมาย เป็นเชิงสัญลักษณ์ง่ายๆ ที่หวังว่าทุกคนเข้าใจและจะมองเห็นมัน

ทาง เฟซบุ๊ก ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้สั่งลบ ไอโอ กองทัพ 185 บัญชี ที่โพสต์เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในภาคใต้ IO กองทัพ – เมื่อวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าว รอยเตอร์ ได้รายงานว่า เฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาได้ลบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเป็นจำนวน 185 บัญชี หลังจากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ในประเทศไทย และมีความเชื่อมโยงกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ในเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในภาคใต้

โดยทางเฟซบุ๊กได้ยกเลิกให้บริการ 77 บัญชี, 72 เพจ, 18 กลุ่มบนเฟซบุ๊ก และอีก 18 กลุ่มในอินสตาแกรม ซึ่งการยกเลิกการให้บริการในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทางเฟซบุ๊กได้ลบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

ซึ่งบัญชีปลอมส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นในปี 2563 ที่ผ่านมา และถูกนำไปใช้ในการจัดการบริหารเพจและกลุ่มต่างๆ โดยในกลุ่มผู้ดูแลเพจนั้นมีบัญชีจริงปะปนอยู่ด้วย ซึ่งบัญชีปลอมจะไม่ยอมแสดงความเชื่อมโยงของบัญชีกับกองทัพ

นอกจากนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่าบัญชีปลอมส่วนใหญ่แอบอ้างว่าตนอยู่ในพื้นที่ทางภาคใต้ และยังมีการพบว่ามีการจ่ายเงินนับหมื่นบาท หรือราวๆ 350 ดอลลาร์ เพื่อทำการโฆษณาลงบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอีกด้วย ด้านกองทัพยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ อีกหนึ่งผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่ได้สั่งลบบัญชีทวิตเตอร์มากกว่า 926 บัญชี ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาที่มีลักษณะสนับสนุนกองทัพบกและรัฐบาลไทย และยังมีพฤติกรรมโจมตีนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่น

โดยในการปฏิบัติการกวาดล้างในครั้งนั้น ทางทวิตเตอร์ได้ลบบัญชี IO ไปทั้งหมด 1,594 บัญชีใน 5 ประเทศ ได้แก่ อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย คิวบา ไทย และ รัสเซีย

‘เฌอเอม’ วอนกรมสุขภาพจิตคิดใหม่ หลังปลด ‘อแมนด้า’ จากทูตสุขภาพจิต

เฌอเอม จี้ถามกรมสุขภาพจิตให้พิจารณาใหม่ เหตุปลด อแมนด้า ออกจากตำแหน่งทูตด้านสุขภาพจิต หลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 5 วัน

อแมนด้า เฌอเอม – สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางกรมสุขภาพจิต ได้ออกมาประกาศยุติบทบาทของ อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม เจ้าของตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2020 ในฐานะ ทูตด้านสุขภาพจิต ทั้งที่ดำรงตำแหน่งได้เพียง 5 วัน เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะรู้สึกกังวล ไม่สบายใจ และอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง

ในเวลาต่อมา ทำให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์ในโลกโซเชียลจำนวนมาก ถึงการกระทำของกรมสุขภาพจิต และเฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ อดีตผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว

โดยเธอทวีตว่า “ขอออกความเห็นนะคะ เราจะพูดถึงปัญหาสุขภาพจิตได้ยังไงหากละเลยความกังวลและความกดดันทางการเมือง นี่ควรเป็นสิ่งที่กรมสุขภาพจิตคำนึงถึงมากที่สุด กรุณาพิจารณาใหม่ด้วยค่ะ”

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร